1.ทำให้คุณรู้สึกว่าต้องทำงานหนักขึ้น
การที่บ้านของคุณมีสิ่งของวางกองระเกะระกะอยู่ไปทั่ว อาจทำให้คุณรู้สึกว่ามีภาระหน้าที่ที่ต้องจัดการมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้หากคุณต้องทำงานประจำนอกบ้านและยังต้องกลับมาเห็นสภาพบ้านที่รกรุงรัง ก็ยิ่งทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยขึ้นเป็นทวีคูณ
2.ดึงความสนใจ

หากคุณกำลังตั้งใจนั่งทำงานหรือจดจ่อกับอะไรบางอย่างอยู่ แต่สายตาของคุณดันไปจ๊ะเอ๋กับบรรดาสิ่งของที่วางอยู่ไม่เป็นที่เป็นทาง ก็อาจเป็นตัวดึงความสนใจและทำลายสมาธิของคุณได้ไม่มากก็น้อย
3.ยากที่จะรู้สึกผ่อนคลาย

การมีบ้านที่สะอาดและจัดของได้เป็นระเบียบเรียบร้อย ย่อมทำให้ผู้พบเห็นรู้สึกผ่อนคลายได้ทั้งด้านร่างกายและจิตใจค่ะ ซึ่งแน่นอนว่าบ้านที่รกหรือสกปรกมักทำให้ผู้พบเห็นรู้สึกอึดอัดหรือรู้สึกไม่สบายกายและใจมากกว่า
4.ทำให้รู้สึกอาย

หากบังเอิญว่าคุณดันโชคร้ายที่วันดีคืนดีก็มีแขกมาเยี่ยมบ้านโดยไม่ได้มีการนัดหมายล่วงหน้า แล้วเขาได้มาเห็นสภาพบ้านที่รกเหมือนรังหนู แน่นอนว่าคุณต้องมีความรู้สึกละอายใจไม่มากก็น้อย
5.ขัดขวางความคิดสร้างสรรค์

หากคุณทำงานที่ค่อนข้างต้องใช้ความคิด แน่นอนว่าการทำงานท่ามกลางบรรยากาศที่โปร่งโล่งและสะอาด จะทำให้คุณมีโอกาสคิดหรือได้ไอเดียใหม่ๆมากกว่าการทำงานอยู่ในสภาพแวดล้อมที่รกและแออัดไปด้วยสิ่งของ
6.ทำให้คุณหงุดหงิดเมื่อหาของไม่เจอ

หนึ่งในปัญหาโลกแตกที่ใครหลายคนน่าจะต้องเคยประสบ คือ การหาสิ่งของที่ต้องการใช้ไม่เจอนั่นเอง ซึ่งเป็นไปได้ว่ามันอาจถูกหมกรวมอยู่กับบรรดาสิ่งของที่กองพะเนินอยู่ก็เป็นได้
7.เกิดความวิตกกังวลหรือความเครียด

การต้องอยู่ในบ้านที่ทั้งรกและสกปรกอาจทำให้คุณเกิดความรู้สึกเครียดหรือกังวลได้โดยไม่รู้ตัว ดังนั้นคุณควรหมั่นเก็บกวาดบ้านเป็นประจำ เพื่อให้บ้านดูมีระเบียบเรียบร้อยและน่าอยู่อาศัย
หากคุณลองสำรวจบ้านตัวเองแล้วพบว่า มีสิ่งของวางกระจายไปทั่วหรือกองรวมกันแบบไร้ซึ่งระเบียบ ก็ให้คุณลองหาเวลาทำความสะอาดและจัดบ้านให้เรียบร้อย เผื่อที่วางมองไปทางไหนก็สบายตา หาอะไรก็เจอ ลดอารมณ์หงุดหงิดแถมยังรู้สึกอารมณ์ดีที่บ้านสะอาดเรียบร้อยอีกด้วย
ที่มา: psychologytoday