AD.

-----[FreeSplanS.com]-----ศูนย์รวมแบบบ้าน และ ตกแต่ง หลากหลายสไตล์-----

วันศุกร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555

แต่งบ้านสบายด้วยกลิ่นอายทะเล


แต่งบ้านสบายด้วยกลิ่นอายทะเล

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          หลายคนคงกำลังนั่งคิดถึงบรรยากาศสายลม แสงแดด และเสียงคลื่นจากทะเล ชนิดที่ว่าถ้ามีทะเลมาอยู่ในบ้านได้ก็คงจะดี แล้ววันนี้ความฝันที่จะอยู่ในบรรยากาศทะเลของคุณคงไม่ไกลเกินเอื้อมแล้วล่ะจ้า เพราะกระปุกดอทคอมมีวิธีเปลี่ยนบรรยากาศในบ้านเป็นสไตล์ทะเลมาฝากกัน ให้คุณได้รู้สึกเหมือนอยู่ใกล้ชิดทะเลตลอดทั้งปีเลยล่ะ อยากรู้ว่าต้องทำอย่างไร ไปดูกันเลย...

 สดใสด้วยสีฟ้า-ขาว

          เมื่อพูดถึงทะเลทุกคนก็ต้องนึกถึงสีฟ้าของน้ำทะเล และหาดทรายขาว ๆ  กันอยู่แล้ว ฉะนั้นการแต่งห้องในโทนสีฟ้า-ขาว จึงเป็นสียอดนิยมที่ทำให้รู้สึกเข้าถึงทะเลได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นฟ้าเข้ม ฟ้าอ่อน หรือเฉดไหนก็ตาม ขอแค่เป็นสีฟ้า-ขาว ก็ชวนให้นึกถึงทะเลแล้วล่ะ

แต่งบ้านสบายด้วยกลิ่นอายทะเล

 ห้องอุ่นด้วยไอแดด

          แสงแดดและความสว่างภายในบ้านก็เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะคุณไม่ควรปล่อยให้แสงแดดเข้ามาในห้องมากจนเกินไปจนร้อน และไม่ควรปล่อยให้ห้องมืดเกินไปอย่างไม่โดนแสงแดดเลย แต่ควรให้แสงเข้าห้องในระดับที่พอเหมาะ จึงจะเข้ากับบรรยากาศแบบทะเลมากกว่า โดยการใช้เลือกผ้าม่านที่มีความโปร่งแสงเพื่อให้ไออุ่นจากแสงแดดส่องผ่านเข้าในห้องได้บ้าง ราวกับเปลี่ยนแดดร้อนจ้าในตอนกลางวัน ให้เป็นเหมือนแสงแดดอ่อน ๆ ในยามเช้าริมทะเลยังไงอย่างนั้น

 พักร้อนในมุมสบาย

          อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนอยากมีมุมส่วนตัว เลือกโต๊ะชุดเล็ก ๆ หรือเปลชิลล์ ชิลล์ แขวนไว้บริเวณมุมโปรดของคุณ เอาไว้ใช้ในเวลาที่อยากจะมีมุมส่วนตัวเอาไว้อ่านหนังสือเล่น ๆ และฟังเพลงเพลิน ๆ เหมือนได้นอนเล่นใต้ต้นมะพร้าวแถว ๆ ชายทะเลเลยล่ะ

แต่งบ้านสบายด้วยกลิ่นอายทะเล

 ของแต่งบ้านสไตล์ทะเลแบบชิค ๆ

          การตกแต่งที่ทำให้เราสัมผัสถึงบรรยากาศแบบทะเลอีกอย่างหนึ่งก็คือ การประดับด้วยเปลือกหอย และเศษไม้ต่าง ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่สื่อถึงทะเลได้เป็นอย่างดี อีกทั้งการประดับหรือแต่งมุมต่าง ๆ ด้วยไม้ ก็ช่วยทำให้เราใกล้ชิดกับธรรมชาติได้มากยิ่งขึ้นด้วยนะ  นอกจากนี้ยังสามารถเติมความสดใสกับบ้านได้ด้วยช่อดอกไม้ช่อเล็ก ปักแจกันทรงเก๋ ๆ อาจจะเป็นแจกันใส ใส่ทรายละเอียด ตกแต่งแบบทะเล๊ ทะเล ก็ยิ่งช่วยเพิ่มบรรยากาศให้ใกล้เคียง แถมยังทำให้บ้านของคุณน่าสนใจขึ้นอีกด้วย

          การแต่งห้องที่เรียบง่าย ให้ความสบายแบบเป็นกันเอง และกลมกลืนกับธรรมชาติรอบตัวในสไตล์ทะเลแบบนี้ คงถูกใจคนรักทะเลไม่น้อยเลยใช่ไหมคะ อย่าลืมนำไปปรับใช้กับบ้านสวย ๆ ของคุณ ให้สดใสมีชีวิตชีวาขึ้น และอย่าลืมติดตามไอเดียแต่งบ้านดี ๆ ที่กระปุกดอทคอมนำมาฝากกันอีกในคราวหน้านะจ๊ะ

4 เทคนิคจัดหมอนให้เข้ากับสไตล์ที่คุณชอบ





          หลาย ๆ คนอาจไม่เข้าใจว่าจะนั่งพิถีพิถันจัดหมอนของตัวเองไปทำไม ในเมื่อวางกองไว้ทุกวันนี้ก็ใช้ได้เหมือนกันแถมยังไม่เสียเวลาอีกด้วย แต่รู้ไว้เถอะว่าที่จริงแล้วการจัดหมอนมีผลกับสไตล์ห้องมากกว่าที่คุณคิดเอาไว้เยอะ ซึ่งถ้ารู้จักจัดหมอนให้เข้ากับสไตล์แบบที่คุณชอบแล้ว ก็จะช่วยให้เตียงนอนของคุณดูดีขึ้นทันตาเห็นได้ง่าย ๆ เพียงแค่คุณลองทำตามเทคนิคนี้ดู



  1. จัดแบบเรียบง่ายสบาย ๆ

          หากว่าคุณเป็นคนที่ชอบความเรียบง่ายและอยากให้ห้องมีบรรยากาศสบายตาน่าพักผ่อน การจัดหมอนแบบเรียบ ๆ อาจเป็นแบบที่เหมาะกับคุณมากที่สุด โดยคุณควรวางหมอนใบใหญ่ที่สุดไว้ด้านหลัง 2 ใบ ซ้อนด้วยหมอนพิมพ์ลายสวย ๆ อีก 2 ใบ จากนั้นจึงใช้หมอนเล็ก 1 ใบมาวางตรงกลาง เท่านี้ก็ช่วยให้เตียงดูเรียบง่ายแต่น่าสนใจมากขึ้นเหมาะกับคุณได้แล้ว


  2. ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น

          หากคุณชอบการตกแต่งสไตล์โมเดิร์นที่ดูเรียบขรึมเป็นผู้ใหญ่ คุณก็ควรจัดหมอนของคุณด้วยการนำหมอนใบที่เล็กกว่ามาซ้อนด้านบนโดยวางแนวนอนดู ซึ่งวิธีนี้นอกจากจะช่วยให้ห้องดูแปลกตาน่าสนใจมากขึ้นแล้ว ยังช่วยให้หมอนที่ค่อนข้างแบนของคุณดูนุ่มสบายมากขึ้น และช่วยให้หัวเตียงที่ดูโล่งเกินไปดูสมดุลมากขึ้นอีกด้วยนะ


  3. เสริมความหรูหราด้วยหมอน

          ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบความหรูหราหรือชอบอะไรหวานแหววโรแมนติกเป็นพิเศษก็ควรเลือกหมอนแต่งห้องนอนให้เข้ากับตัวคุณด้วย โดยเลือกหมอนลายหวาน ๆ เช่นลายลูกไม้หรือที่มีระบายด้านนอกมาใช้เพื่อให้เข้ากับตัวคุณด้วย ทั้งนี้วิธีเรียงหมอนแนวนี้ก็ไม่มีอะไรมาก เพียงแค่เลือกให้เข้าชุดกันและจัดเรียงเป็นแนวตั้งเพื่อให้ดูนุ่มสบายเท่านี้ก็เรียบร้อย


  4. ตกแต่งแบบคนเจ้าระเบียบ

          สุดท้ายถ้าคุณเป็นคนมมีระเบียบวินัยที่ชอบให้ห้องดูเรียบร้อยอยู่ตลอดเวลา และทนไม่ได้เอาซะเลยเวลาที่ห้องดูรกเลอะเทอะ คุณก็ควรจัดวางหมอนให้เป็นระเบียบเข้ากับนิสัยของตัวเองด้วยการจัดหมอนที่มีลายเข้าคู่กันวางเรียงแนวตั้งซ้อนกันให้เป็นระเบียบเท่ากันพอดี เพียงแค่นี้ก็จะช่วยให้ห้องดูสวยะสะอาดตาถูกใจคุณได้ง่าย ๆ แล้ว

          อ่านจบแล้วก็ลองสังเกตตัวเองดูนะคะว่าคุณเรียงหมอนของตัวเองแบบไหนและเข้ากับนิสัยของคุณบ้างหรือเปล่า นอกจากนี้คนที่ไม่เคยจัดหมอนของตัวเองกันเลยก็ลองนำไปใช้กันดู เพราะเทคนิคนี้อาจช่วยให้ห้องของคุณดูดีขึ้นอย่างที่คุณคาดไม่ถึงเลยก็ได้

8 ขั้นตอนแต่งแสงในห้องให้สวยลงตัว



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          แสงในห้องนั้นเป็นส่วนสำคัญที่เราควรใส่ใจเวลาแต่งห้องไม่แพ้การตกแต่งส่วนอื่น ๆ เพราะบรรยากาศของห้องนั้นก็ขึ้นอยู่กับแสงในห้องเช่นกัน ถ้าหากห้องดูมืดทึม ก็จะทำให้บรรยากาศดูเงียบเหงาขาดชีวิตชีวา ในขณะที่ห้องที่ดูสว่างเกินไป ก็จะทำให้ห้องดูเก่าและสูญเสียบรรยากาศในการพักผ่อนได้เช่นกัน ดังนั้นเราจึงควรจัดแต่งแสงในห้องให้สมดุลด้วยวิธีการเหล่านี้

 1. ดูทิศของห้องที่คุณจะจัด

          ผู้คนมักจะแต่งห้องโดยไม่ได้คำนึงถึงทิศทางของห้องด้วย ทั้ง ๆ ที่ทิศของห้องนั้นเป็นส่วนสำคัญในการจัดห้องอย่างมาก เพราะแสงในห้องที่อยู่ในทิศทางที่ต่างกันนั้นจะดูแตกต่างอย่างสิ้นเชิง เราจึงควรสังเกตทิศของห้องก่อน โดยห้องที่หันหน้าไปทางทิศเหนือนั้น จะได้รับแสงพอเหมาะ ไม่สว่างหรือมืดจนเกินไป ส่วนห้องที่หันเข้าหาทิศใต้จะได้รับแสงแดดค่อนข้างมาก ในขณะที่ห้องทางทิศตะวันออกจะได้รับแสงเฉพาะในช่วงเช้า และห้องที่อยู่ในทิศตะวันตกจะมีแสงแดดส่องในช่วงบ่าย

 2. เลือกสีให้เข้ากับทิศของห้อง

          หลังจากที่ศึกษาแสงในห้องตามทิศต่าง ๆ แล้ว จากนั้นคุณก็ควรจะเลือกสีของห้องเพื่อให้เข้ากับแสงในห้องด้วย ทั้งนี้ ห้องที่อยู่ทางทิศเหนือนั้นได้รับแดดน้อยกว่าห้องอื่น ๆ เราจึงควรเลือกสีสว่างเพื่อให้ห้องดูสดใสขึ้น เช่น สีครีม สีขาว สีชมพู และสีเหลืองอ่อน ส่วนห้องที่อยู่ทางทิศใต้เหมาะกับสีโทนเย็นที่ดูเข้มหน่อย เช่นสีเขียวและสีฟ้า เพื่อไม่ให้ผนังดูซีดเมื่อถูกแดดส่องแรง ๆ สำหรับสีที่เหมาะกับห้องในทิศตะวันออก ควรเป็นสีสด ๆ โทนร้อน เพื่อทดแทนแสงแดดที่ขาดหายในช่วงกลางวัน และสุดท้าย ควรใช้สีโทนเย็นที่เข้ากับแสงสว่างได้ด้วย เช่นสีเทาและสีครีมกับห้องที่อยู่ในทิศตะวันตก

 3. คำนึงถึงขนาดห้องด้วย

          ระดับความเข้มของสีที่คุณเลือกใช้นั้นขึ้นอยู่กับขนาดห้องของคุณด้วย หากห้องของคุณมีขนาดใหญ่ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้สีที่ดูสว่างมากนัก เพราะจะทำให้ห้องดูโล่งจนเกินไป ในขณะเดียวกัน ควรใช้สีที่ดูสว่างในห้องที่มีขนาดเล็ก จะได้ดูปลอดโปร่งเหมือนมีอากาศถ่ายเทและแสงแดดเข้าถึงมากขึ้นในห้องของคุณ

 4. แต่งเพดานและพื้นของคุณให้ถูกวิธี

          ผู้คนมักสนใจแต่การตกแต่งผนังเพื่อเปลี่ยนอิมเมจของห้อง แต่ที่จริงแล้ว เพดานและพื้น ก็มีส่วนสำคัญในการสร้างมิติหลอกตาให้ห้องดูมีขนาดที่เปลี่ยนไปได้เช่นกัน โดยที่การใช้พื้นสีเข้มและเพดานสีสว่าง จะช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้นได้ ส่วนคนที่อยากให้ผนังดูยืดยาวขึ้นไปอีก แค่ทาเพดานด้วยสีที่อ่อนกว่าผนังก็เพียงพอแล้ว และในกรณีที่ห้องของคุณมีเพดานสูงจนทำให้ห้องดูไม่สมดุล ก็สามารถเลือกใช้พื้นและเพดานสีเข้มเพื่อให้ผนังดูสั้นลงได้เช่นกัน


จัดแสงในห้อง

 5. จัดแต่งเฟอร์นิเจอร์ให้พอดี

          จำนวนเฟอร์นิเจอร์และตำแหน่งของมันส่งผลต่อความสมดุลของแสงในห้องมากกว่าที่คุณคิด ดังนั้นจึงควรจัดแต่งเฟอร์นิเจอร์ในห้องของคุณให้เหมาะสม เพื่อให้ห้องดูโล่งสบายตา และมีแสงแดดเข้าถึงมากที่สุด ด้วยการเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีขนาดเตี้ย และแบบที่มีดีไซน์โปร่งบางไม่หนาทึบเป็นหลัก นอกจากนี้ก็ควรจัดวางเฟอรนิเจอร์ให้พอดี เพราะหากมีเฟอร์นิเจอร์ในห้องมากเกินไป จะทำให้ห้องดูมืดลง

 6. เลือกสีของเฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะสม

          สีของเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ที่อยู่ในห้อง มีผลกับความสว่างพอ ๆ กับสีของผนัง เพราะฉะนั้นควรเลือกสีให้เหมาะกับแสงแบบที่คุณต้องการ หากคุณอยากให้ห้องดูสว่างขึ้นอีก ควรเลือกใช้แบบที่มีสีอ่อน  ๆ และหากระจกบานใหญ่ ๆ มาติด เพื่อให้แสงในห้องส่องได้ทั่วถึง อย่างไรก็ตาม หากคุณทาห้องด้วยสีโทนสว่างจนห้องดูมีแสงแดดเข้าถึงพอสมควรแล้ว ก็ควรเน้นการตกแต่งด้วยสีเข้มเพื่อไม่ให้ห้องดูจืดชืดจนเกินไป

 7. ใช้ผ้าม่านเพื่อให้แสงในห้องสมดุล

          ถ้าหากว่าห้องของคุณยังไม่สว่างเพียงพอ คุณก็สามารถทำให้ห้องดูสว่างขึ้นได้ ด้วยการใช้ผ้าม่านที่มีเนื้อผ้าบางเบาและมีสีอ่อน ๆ แต่งห้อง เพื่อให้แสงสาดเข้ามาในห้องมากขึ้น ในทางกลับกัน หากว่าห้องของคุณสว่างเพียงพอแล้ว ควรเลือกใช้ผ้าม่านหนาทึบมีน้ำหนัก จะได้เป็นการกันแสงแดดจากภายนอก


จัดแสงในห้อง

 8. ใช้โคมไฟเข้าช่วย

          นอกจากแสงภายนอกแล้ว การติดโคมไฟในห้องก็จำเป็นเช่นกัน เพราะไม่ว่าอย่างไรแสงจากภายนอกก็ไม่มีทางพอสำหรับการใช้งานของเรา โดยเฉพาะในช่วงเย็นที่พระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว ทั้งนี้ ถ้าหากต้องการให้ห้องของคุณดูสว่างและกว้างขึ้นก็ควรใช้โคมไฟติดเพดานสีขาว เพื่อให้แสงในห้องดูสว่างขึ้นอีก นอกจากนี้ เพื่อให้แสงดูสมดุลไม่สว่างจนเกินไป ก็ควรหาโคมไฟตั้งโต๊ะที่มีแสงสีเหลืองนวลมาประดับข้างเตียงของคุณด้วย

          เพียงแค่ทำตาม 8 ขั้นตอนง่าย ๆ เท่านี้ห้องของคุณก็จะมีแสงที่ดูสมดุลสวยงามได้แล้ว เพราะฉะนั้นจัดห้องคราวหน้า ลองนำเทคนิคนี้ไปใช้กันดูนะคะ

7 ไอเดียสุดเก๋ในการแต่งผนังห้อง



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          สำหรับหลาย ๆ คนที่กำลังเลือกไม่ถูกว่าจะแต่งผนังห้องของคุณแบบไหน เพื่อให้ออกมาได้แบบที่ดูสวยเหมาะกับตัวคุณดี วันนี้กระปุกดอทคอมได้รวบรวมไอเดียตกแต่งผนังมาฝาก เพื่อเอาใจคนรักการแต่งห้องโดยเฉพาะ ว่าแต่จะมีอะไรบ้างนั้น ลองไปดูกันเลยค่ะ


          1. ผนังลายทาง

          แม้ว่าผนังลายทางจะตกแต่งค่อนข้างยากและใช้เวลามาก เพราะต้องวัดและแปะเทปให้พอดีก่อนจะทาสี แต่ผลที่ได้ก็ออกมาคุ้มค่าเสมอ เพราะจะช่วยให้ห้องดูมีมิติกว้างขึ้นได้ แถมยังดูคลาสสิคสุด ๆ อีกด้วย ทั้งนี้หากอยากให้ผนังดูกว้างขึ้น ก็ควรทาสีเป็นแนวนอน แต่ถ้าหากต้องการให้ผนังดูยืดยาวขึ้นไปอีก ควรทาสีในแนวตั้ง

          2. วอลเปเปอร์ไวนิล

          วอลเปเปอร์ชนิดนี้นับเป็นแบบที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมาก เพราะสามารถติดและลอกออกได้ง่าย เหมาะสำหรับคนที่ชอบเปลี่ยนลุคใหม่ ๆ ให้กับห้องอยู่เสมอ ทั้งนี้วอลเปเปอร์ไวนิลแบบที่มีลวดลายจัด ๆ จะช่วยให้ห้องของคุณดูสดใสขึ้นได้ แต่ก็ควรติดวอลเปเปอร์ลายเยอะ ๆ แบบนี้ที่ผนังฝั่งเดียวเท่านั้น ไม่เช่นนั้นจะทำให้ห้องของคุณดูรกเลอะเทอะจนเสียบรรยากาศพักผ่อนได้

          3. วอลเปเปอร์ลายฉลุ

          ลายฉลุมักมีลวดลายที่ประณีตหรูหรา จึงสามารถช่วยให้ห้องของคุณดูมีระดับขึ้นอีกได้ ทั้งนี้หากคุณอยากให้ห้องของคุณดูกว้างขึ้น ก็ควรเลือกใช้วอลเปเปอร์ที่มีสีโทนสว่าง เช่น สีขาว สีฟ้า และสีเหลือง นอกจากนี้ หากคุณเกิดเบื่อและอยากลองตกแต่งห้องใหม่อีก ก็ไม่จำเป็นต้องลอกวอลเปเปอร์ออกให้เสียเวลา แต่สามารถทาสีทับไปได้เลย เพราะวอลเปเปอร์แนวนี้มักมีลายที่เรียบเสมอกันอยู่แล้ว

          4. กระดานชอล์คบอร์ด

          คนมักจะนิยมนำกระดานชอล์คบอร์ดไปแต่งกำแพงด้านใดด้านหนึ่งของห้องเด็ก เพื่อใช้เป็นของประดับห้อง แถมยังช่วยให้เด็ก ๆ ได้เพลิดเพลินจากการใช้จินตนาการวาดเล่นได้อย่างเต็มที่อีกด้วย อย่างไรก็ตาม กระดานเขียนแบบนี้ไม่จำเป็นต้องใช้กับห้องเด็กเสมอไป คุณสามารถนำกระดานแบบนี้มาใช้ตกแต่งห้องของตัวเองได้เช่นกัน จะได้ช่วยให้ห้องดูโดดเด่น ไม่ซ้ำใคร ด้วยรูปเขียนที่คุณวาดขึ้นเอง



          5. วอลเปเปอร์ลายดอก

          สำหรับผู้ที่ชื่นชอบห้องสไตล์ย้อนยุคแนววินเทจหรือคันทรี่ วอลเปเปอร์ลายดอกนั้นเป็นสิ่งที่เหมาะกับคุณที่สุด เพราะช่วยให้บรรยากาศอบอุ่นอ่อนหวานแบบคลาสสิกได้มากกว่าการตกแต่งผนังแบบอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม ควรวัดขนาดให้ดีก่อนติด เพื่อให้ลายของวอลเปเปอร์เรียงต่อกันออกมาสวยงาม

          6. บอร์ดติดผนัง   

          การตกแต่งห้องด้วยบอร์ดติดผนังนั้นทำได้ไม่ยาก แถมยังไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายมากอีกด้วย เพราะเพียงแค่ซื้อบอร์ดธรรมดามา หรือทำขึ้นด้วยตัวเอง แล้วนำรูปถ่ายที่คุณชอบ หรือคำคมเด็ด ๆ ที่โดนใจของคุณมาเขียนติดไว้ ก็ช่วยให้ห้องของคุณดอบอุ่นขึ้นได้แล้ว แถมยังช่วยให้คุณได้อมยิ้มกับภาพความทรงจำเก่า ๆ หรือได้แรงบันดาลใจจากคำพูดดี ๆ ที่เขียนติดเอาไว้อีกด้วย

          7. ติดชั้นวางของตรงผนัง

          นอกจากการติดชั้นวางของตามผนังจะช่วยให้ห้องของคุณดูไม่โล่งจนเกินไปแล้ว ยังช่วยให้คุณมีพื้นที่วางของจุกจิกที่ใช้ตั้งโชว์รวมถึงหนังสือต่าง ๆ เพิ่มขึ้นอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ต้องมั่นใจว่าสีของชั้นที่คุณวางนั้นเป็นสีที่เข้ากับผนังของคุณได้ดี เพื่อให้ไม่ดขัดตากันจนเกินไป

          นอกจากที่เราแนะนำกันมานี้ ลูกเล่นที่สามารถนำมาใช้แต่งผนังห้องได้นั้น ยังมีอยู่อีกมากมายนับไม่ถ้วน ขึ้นอยู่กับความคิดสร้างสรรค์และความกล้าที่จะลองสิ่งใหม่ ๆ ของเราเท่านั้น เพราะฉะนั้นควรกล้าที่จะลองอะไรที่แตกต่างและขยันแต่งห้องของเราอยู่เสมอ จะได้เปลี่ยนบรรยากาศให้ตัวเอง และเป็นการบริหารไอเดียไปในตัวนะคะ

อพาร์ทเม้น Loft Industrial ที่ให้ความสม่ำเสมอที่ยืนยันความคิดพื้นฐานของ Loft.

ห้องใต้หลังคาจาก 100 ตารางเมตรตั้งอยู่ในภาคใต้ของเซาเปาโล ถูกออกแบบด้วยลักษณะบางอย่างของเจ้าของ ในขณะที่เขาอยู่คนเดียวพื้นที่การรวมได้กลายเป็นหนึ่งในงานปาร์ตี้ใหญ่ เป็นผลให้โครงการที่ประสบความสำเร็จ ผสมผสานกันอย่างลงตัวของความสะดวกสบาย และความทันสมัย​​
ในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้สีเช่น สีดำและสีเทาเน้นความเป็นชายของพื้นที่บูรณาการ จะปรากฏเป็นคำที่สำคัญสำหรับความสำเร็จของโครงการที่ยืนยัน ความคิดพื้นฐานของ Loft.

Diego Revollo Loft Residencial

เลือกเพียงหนึ่งชนิดของการเคลือบผนังและเพดานของอพาร์ทเม้นที่ให้ความสม่ำเสมอมากขึ้น กับพื้นที่สร้างในกล่องเดียว มุ่งมั่นที่จะบรรลุความสมดุลระหว่าง Industrial และคุณสมบัติที่เรียบง่ายและความสะดวกสบาย, เคลือบปูนซีเมนต์เผาได้รับเลือกเป็นหน้านี้ เรซินพิเศษถูกนำมาใช้เพื่อให้ได้ป้องกันการรั่วซึมของพื้นผิวเปียกมากขึ้น.

Diego Revollo Loft Residencial

ชั้นล่างห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร และห้องครัว เป็นเอกภาพด้วยเช่นกัน เพราะพวกเขาไม่ได้มีหน่วยงาน, โต๊ะรับประทานอาหารไม้ปรากฏเป็นแผ่นที่ทำจากไม้สน นั่งอยู่บนเคาน์เตอร์ครัว เพิ่มความทันสมัย​​ให้กับวัสดุ



เมื่อชั้นลอยการขจัดของส่วนระหว่างห้องนอนต่าง ๆ ห้องน้ำและตู้เสื้อผ้า ก็เลือกที่จะให้ความกว้างของโซลูชั่นไปยังพื้นที่ headboard ที่ต่ำ มี 2 โต๊ะข้างเตียง ที่แขวนอยู่บนทั้งสองด้านของเตียง เน้นแนวนอนและช่วยให้กว้างมากขึ้น องค์ประกอบเป็น Sucupira ไม้กระดานมืดจมลงม้านั่ง พร้อมกับการเคลือบกระจกเมื่อ constribuíram ฐานสำหรับผลลัพธ์นี้ ในปัจจุบันโครงการร่วมสมัยนี้ นอกเหนือไปจากโครงสร้าง นำเสนออย่างยิ่งในองค์ประกอบที่สวยงามทุกรายละเอียด ที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อเน้นคุณสมบัติของประเภทของแบนนี้ พวกเขาจะหมายถึงโกดังสินค้าของ New York.

Diego Revollo Loft Residencial Diego Revollo Loft ResidencialDiego Revollo Loft Residencial Diego Revollo Loft ResidencialDiego Revollo Loft Residencial Diego Revollo Loft ResidencialDiego Revollo Loft Residencial Diego Revollo Loft ResidencialDiego Revollo Loft Residencial Diego Revollo Loft ResidencialDiego Revollo Loft Residencial Diego Revollo Loft ResidencialDiego Revollo Loft Residencial Diego Revollo Loft Residencial

เรียบเรียงข้อมูล @ ฟรีแปลน
ชื่อโครงการ: Loft Industrial
เมืองรัฐและประเทศ: เซาเปาลู - SP - บราซิล
ปีที่เสร็จ: 2011
สถาปนิก: Diego Revollo
รายชื่อผู้ติดต่อ e-mail: carolinatoledo@diegorevollo.com.br
ชื่อของช่างภาพ: Alain Brugier
Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...