12 วิธีกำจัดคราบกาว เหนียวหนึบแค่ไหนก็หายเกลี้ยง !

           กำจัดคราบกาวติดแน่นกวนใจ ด้วยวิธีกำจัดง่าย ๆ ไม่ต้องเปลืองแรง ด้วยวิธีกำจัดคราบกาวเด็ด ๆ ดังต่อไปนี้..

           ปัญหาเล็ก ๆ แต่ชวนปวดหัวระดับโลก หนึ่งในนั้นคงไม่พ้นการกำจัดคราบกาวบนภาชนะ เพราะภาชนะสวย ๆ ที่เราอยากเก็บไว้ใช้ประโยชน์ต่อ กลับมีฉลากสติ๊กเกอร์เหนียวหนึบที่ทำอย่างไรก็เอาออกไม่เกลี้ยงสักที แต่บอกเลยว่าต่อไปนี้ไม่ต้องกังวลใจเพราะเรามีวิธีกำจัดคราบกาวถึง 12 วิธี จาก wikiHow มาบอกกัน แถมยังเป็นวิธีที่ใช้ของหาง่ายที่มีอยู่ในบ้านแล้วอีกด้วย คราวนี้จะเจองานยากแค่ไหนก็รับมือได้ หนึบมากแค่ไหนก็หายเกลี้ยงชัวร์ ! พร้อมแล้วมาดูกันเลยค่ะ

1. นิ้วมือหรือยางลบ
           วิธีแรกเป็นวิธีแบบเบสิก ๆ ด้วยการใช้นิ้วหรือยางลบนี่แหละ โดยให้ลองเช็กฉลากหรือสติ๊กเกอร์ดูก่อนว่าเหนียวมากไหม หากดูแล้วพอได้ก็ให้ใช้นิ้วหรือยางลบถู ๆ คราบกาวจนจับตัวเป็นก้อนกลม จากนั้นกำจัดคราบไคลเหล่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อย

2. น้ำมันมะกอก

           อันที่จริงจะใช้น้ำมันอะไรก็ได้ แต่น้ำมันมะกอกจะมีความข้นเหนียวกว่าน้ำมันทั่วไป จึงกำจัดคราบได้เร็วขึ้น โดยก่อนทำอย่าลืมทดสอบว่าทำให้ภาชนะเสียหายหรือไม่ก่อนด้วยนะจ๊ะ โดยวิธีการคือให้เทน้ำมันลงบนผ้าสะอาดแล้วแปะไว้บนสติ๊กเกอร์สักครู่ จากนั้นใช้นิ้วค่อย ๆ ถูจนคราบกาวออกหมด แล้วทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างจานเป็นการปิดท้าย

3. น้ำมันหอมระเหย

           สูตรนี้ใช้ได้ดีกับภาชนะประเภทแก้ว กระเบื้อง เซรามิก โดยให้เลือกใช้น้ำมันหอมระเหยอย่างยูคาลิปตัสหรือทีทรีออยล์ เพราะมีราคาถูกและปลอดภัยต่อการนำไปใช้งานต่อ โดยวิธีการคือให้หยดน้ำมันลงบนผ้าสะอาด แล้วถูไปมาบริเวณคราบกาว จากนั้นล้างออกด้วยน้ำยาล้างจานให้เกลี้ยง

4. น้ำยาทำความสะอาดที่ผสมกรดอ่อน ๆ

           ใช้น้ำยาทำความสะอาดสูตรที่ผสมกรดอ่อน ๆ (Acid) ยี่ห้อใดก็ได้ หรือหากไม่มีผลิตภัณฑ์ดังกล่าว จะใช้เป็นมะนาวหรือส้มก็ให้ผลดีเช่นเดียวกัน โดยให้ฉีดพ่นหรือทาน้ำยาดังกล่าวและทิ้งไว้ตามระยะเวลาคำแนะนำข้างขวด โดยอย่าลืมเช็กว่าเหมาะกับพื้นผิวประเภทไหนด้วย ภาชนะจะได้ไม่เสียหายนั่นเอง

5. แอลกอฮอล์

           เลือกชนิดของแอลกอฮอล์ให้เหมาะสม เช่น ชนิดไอโซโพรพิลหรือชนิดใสธรรมดา โดยหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ที่มีผสมของน้ำตาล เพราะจะทำให้สติ๊กเกอร์ยิ่งติดแน่นขึ้นกว่าเดิม โดยวิธีการคือ เทแอลกอฮอล์ลงบนผ้าสะอาดหรือกระดาษทิชชูหนา ๆ แล้วพันรอบภาชนะทิ้งไว้สักครู่ จากนั้นใช้นิ้วถูบนคราบกาวเพื่อกำจัดคราบให้หลุดออกไป

6. กระดาษกาว

           วิธีนี้ใช้ได้ผลดีกับสติ๊กเกอร์หรือป้ายราคาที่ยังเอาออกไม่หมด โดยให้พันเทปกาวไว้รอบนิ้วชี้และนิ้วกลาง แบบหันกาวด้านเหนียวออก จากนั้นกดกระดาษกาวย้ำ ๆ ลงบนคราบสติ๊กเกอร์จนเห็นคราบกาวติดขึ้นมา และหากกระดาษกาวหมดความเหนียวแล้ว ให้เปลี่ยนแผ่นใหม่ และทำไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะกำจัดเศษสติ๊กเกอร์หมด

7. น้ำส้มสายชู
           น้ำส้มสายชูผู้ช่วยอเนกประสงค์ของคุณแม่บ้านก็กำจัดคราบกาวได้กับเขาด้วยนะ โดยแบ่งออกเป็น 2 วิธีดังนี้

           - วิธีที่ 1 : ทาน้ำส้มสายชูให้ทั่วบริเวณที่ต้องการจะกำจัดสติ๊กเกอร์ ปล่อยทิ้งไว้สักครู่ จากนั้นใช้นิ้วถูคราบกาว แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

           - วิธีที่ 2 : แช่ภาชนะประเภทแก้วหรือเซรามิกที่มีคราบสติ๊กเกอร์ลงในชามที่ใส่น้ำส้มสายชู จากนั้นขัดออกด้วยมีดพลาสติกหรือไม้บรรทัดเหล็กจนกว่าคราบจะหลุดออกหมด

8. น้ำมันพาราฟิน

           เทน้ำมันพาราฟินลงบนผ้าสะอาด แล้วถูลงบนคราบจนกว่าฉลากสติ๊กเกอร์จะหลุดออก จากนั้นล้างออกให้สะอาดแล้วผึ่งให้แห้ง

9. น้ำมันไฟแช็ก

           สูตรนี้ใช้ได้ดีกับแก้วหรือโลหะ และอาจไม่เหมาะกับพลาสติก โดยวิธีการคือ ให้สวมถุงมือและวางภาชนะที่จะลอกสติ๊กเกอร์ลงบนกระดาษหนังสือพิมพ์ จากนั้นเทน้ำมันไฟแช็กลงบนผ้าสะอาด แล้วเช็ดไปรอบ ๆ ภาชนะ ก่อนล้างและผึ่งให้แห้ง

10. ไอน้ำ

           วิธีนี้ได้ผลดีกับพลาสติกแข็ง โลหะ และกระจก โดยให้ต้มน้ำในหม้อหรือกระติกน้ำร้อนจนกระทั่งน้ำเดือดเป็นไอ จากนั้นนำภาชนะที่ต้องการกำจัดสติ๊กเกอร์ไปอังไว้กับไอน้ำไว้นาน 1 นาที แล้วจึงใช้มีดค่อย ๆ ขูดสติ๊กเกอร์ที่อ่อนตัวแล้วออก พอภาชนะเย็นก็ค่อยใช้นิ้วถูเศษที่หลืออีกที โดยหากภาชนะเป็นแบบทนความร้อนได้ไม่แตกร้าว ก็ให้นำภาชนะนั้นลงต้มในน้ำร้อนเลยจะช่วยประหยัดเวลามากขึ้น

11. ผ้าเย็น

           ผ้าเย็นที่มักได้รับแจกมาบ่อย ๆ ก็สามารถใช้กำจัดคราบสติ๊กเกอร์ได้เช่นกัน โดยให้นำผ้าเย็นมาหุ้มไว้รอบ ๆ ภาชนะแล้วทิ้งไว้สักครู่ จากนั้นค่อย ๆ ถูผ้าเย็นเพื่อกำจัดคราบกาวออกจากภาชนะจนหมด ทำความสะอาดแล้วทิ้งไว้ให้แห้ง
  
12. บัตรพลาสติกแบบแข็ง

           บัตรพลาสติกแบบแข็งที่หมดอายุแล้วก็นำมากำจัดคราบกาวได้ ด้วยการนำบัตรพลาสติกมาขูดที่คราบสติ๊กเกอร์จนหลุดออกหมดไป โดยอาจวางไว้ประจำในครัวสัก 1-2 ใบ รับรองได้ใช้ประโยชน์ตลอดแน่ ๆ

           เลือกวิธีตามที่ถนัดไปลองใช้กันดู โดยขอบอกนิดนึงว่าห้ามใช้เล็บขูดเชียวนะจ๊ะ เพราะเล็บสวย ๆ อาจฉีกขาดได้ แต่ให้ใช้เป็นไม้บรรทัดเหล็กหรือมีดจะดีกว่า ทีนี้ปัญหาเรื่องคราบกาวสติ๊กเกอร์กวนใจก็กลายเป็นเรื่องขี้ปะติ๋วแล้ว

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก wikiHow

วิธีทำที่ดักเส้นผมในท่อน้ำทิ้ง ด้วยขวดพลาสติกและเชือก

          วิธีทำที่ดักเส้นผมในท่อน้ำทิ้ง ด้วยขวดพลาสติกและเชือก ที่ดักจับป้องกันท่อตันจากเส้นผม อยากรู้ว่าเส้นผมอุดตันท่อ มาดูวิธีแก้ท่อตันไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

          ปัญหาเส้นผมอุดตันท่อน้ำแก้ยากจริง ๆ แต่ไม่ต้องห่วงเพราะวันนี้ คุณ AIScrip สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มีวิธีทำที่ดักเส้นผม ป้องกันท่อตันจากเส้นผมมาบอกต่อแล้ว ซึ่งวิธีทำที่ดักเส้นผมก็ง่ายมาก แถมอุปกรณ์ก็หาได้จากในบ้าน ใครมีปัญหาเรื่องเส้นผมอุดตันท่อบ่อย ๆ หรืออยากรู้ว่าท่อตันจะต้องทำอย่างไรดีเผื่อจะแก้ไขได้ถาวร ก็ตามไปชมที่ดักจับเส้นผมทำง่าย ๆ กันเลยค่ะ

DIY ที่ดักเส้นผมในท่อน้ำทิ้งจากขวดน้ำและเชือก ไม่ต้องเสียเงินซื้อ !! โดย คุณ AIScrip

          ปัญหาเส้นผมอุดตันในท่อระบายน้ำ เห็นมีที่ดักเส้นผมขายอันละ 50-200 แบบ แต่ช้าก่อน !! เราสามารถทำเองได้ง่าย ๆ จากขวดน้ำและเชือก ไม่ต้องเสียเงิน มาดูกันเลย...

          1. เตรียมอุปกรณ์ : ขวดพลาสติกใส, เชือก/เอ็นตกปลา, เข็ม, กรรไกร

          2. ตัดฝาขวดให้ได้แบบในรูปหรือใครมีฝีมือกว่านี้ก็ตัดให้สวยได้ครับ ชิ้นนี้จะทำเป็นที่แขวนครับ

          3.ตัดขวดให้เป็นรูปดอกไม้หรืออย่างไรก็ได้ให้มีเหลี่ยมมีมุมเยอะ ๆ จะได้ช่วยดักเส้นผม สัก 5 ชิ้นก็พอ

          4. จากนั้นเจาะรูพลาสติกทุกชิ้นด้วยเข็ม แล้วรอยเชือกดังรูป

          5. นำไปติดที่ฝาตะแกรงท่อน้ำ แล้ว ใส่ปลายสายลงไปในท่อได้เลย...เรียบร้อย

          เสร็จแล้ว !! ที่ดักเส้นผม ไม่ต้องเสียเงิน ใช้เสร็จยกมาตัดทิ้งลงถังขยะ แล้วใส่อันใหม่ได้เลย ไม่ต้องเสียดายเงิน ชอบถูกใจฝากติดตามผลงาน กด like กด subscribe ที่ facebook และ youtube ด้วยครับผม ผมสัญญาจะทำงาน DIY ดี ๆ มาฝากเพื่อน ๆ อีกครับ ขอบพระคุณครับ

          ป.ล. แนะนำได้เต็มที่นะครับ (เป็นคลิปแรก ๆ ผมอาจจะทำได้ไม่ค่อยดีนัก)

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ  AIScrip สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม, เฟซบุ๊ก DIY of Things และ DIY of Things (Youtube)

7 เครื่องครัวใช้เสร็จควรรีบล้าง ก่อนคราบสกปรกติดค้าง ทำให้รสชาติอาหารเปลี่ยนไป

         ถ้าอยากรู้ว่าทำไมรสชาติอาหารไม่เหมือนเดิม อาจไม่ได้ใส่เครื่องปรุงผิด แต่เป็นเพราะการปล่อยให้ของใช้ในครัวเหล่านี้มีเศษอาหารหรือคราบสกปรกตกค้างอยู่ แล้วล้างไม่สะอาด

          รสชาติอาหารไม่ได้ขึ้นอยู่กับฝีมือในการปรุงเพียงอย่างเดียว เพราะเกี่ยวข้องกับการทำความสะอาดอุปกรณ์ทำอาหาร เครื่องครัว และเหล่าภาชนะที่นำมาใส่อาหารด้วยเช่นกัน หากล้างไม่สะอาด ปล่อยให้มีเศษอาหาร คราบสกปรก หรือน้ำยาเคมีตกค้าง ก็ทำให้รสชาติของอาหารเปลี่ยนไปเหมือนกัน แถมบางครั้งอาจจะมีกลิ่นแปลก ๆ ตามมาด้วย เอาเป็นว่าไปดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้างที่ถึงเวลาทำความสะอาดอย่างจริงจังซะที

1. ตะแกรงปิ้งย่าง

          ควรล้างตะแกรงให้สะอาดทุกครั้งหลังใช้งาน อย่าให้มีเศษอาหารที่ไหม้เกรียมติดอยู่เลยเชียว เพราะไม่อย่างนั้นก็จะมีสิ่งสกปรกหรือคราบดำ ๆ ติดไปกับของสดที่นำมาปิ้ง-ย่างในครั้งต่อไปและทำให้รสชาติอาหารเพี้ยนตามไปด้วย แถมยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพอีกต่างหาก ส่วนวิธีขัดก็ไม่ยากเพียงผสมเบกกิ้งโซดากับน้ำเปล่าแล้วคนให้กลายเป็นเนื้อสครับเข้มข้น พอกตะแกรงทิ้งไว้ 1 คืน แล้วค่อยนำไปทำความสะอาด

2. เตาอบ

          ไม่ควรให้มีคราบสกปรกค้างในเตาอบนานเกิน 1 วัน เพราะถ้าหากปล่อยไว้นานแถมยังฝืนใช้เตาอบอาหารต่อไป คราบสกปรกที่ยังติดอยู่ก็จะเริ่มไหม้และฝังแน่นจนขัดออกยาก ที่สำคัญยังทำให้อาหารที่เพิ่งอบเสร็จมีกลิ่นกับรสชาติที่แปลกไปจากที่ควรจะเป็นด้วย ส่วนวิธีทำความสะอาดก็ง่ายนิดเดียว เริ่มจากผสมเบกกิ้งโซดา 2 ส่วน กับน้ำ 1 ส่วน คนให้เข้ากัน แล้วนำไปป้ายทิ้งไว้บนคราบประมาณ 5-6 นาที จากนั้นใช้ฟองน้ำชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดเตาอบให้ทั่ว

3. กล่องพลาสติกใส่อาหาร

          แม้ภาพรวมจะดูสะอาดแต่ก็ควรทำความสะอาดกล่องพลาสติก หลังใช้งานทุกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้มีคราบสกปรกและกลิ่นเหม็นตกค้าง ด้วยวิธีทำความสะอาดดังนี้

          - วิธีกำจัดกลิ่น : ผสมเบกกิ้งโซดา 4 ช้อนชา กับน้ำอุ่นปริมาณ ¼ แกลลอนในกะละมัง แล้วนำกล่องพลาสติกมาแช่ไว้อย่างน้อย 30 นาที ก่อนนำไปทำความสะอาดตามปกติ

          - วิธีกำจัดคราบ : ผสมคลอรีนเหลว 1 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำอุ่น 1 ถ้วยตวง แล้วเทลงในกล่องพลาสติก และนำส่วนผสมเดียวกันนี้เทลงบนฝาปิดจนปริ่ม จากนั้นก็ทิ้งไว้ 30 นาที ค่อยล้างออกด้วยน้ำสบู่และน้ำร้อน แล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดตาม

4. จาน ชาม ช้อน-ส้อม

          นอกจากจะต้องระมัดระวังปริมาณการใช้น้ำยาล้างจานให้พอดีกับปริมาณภาชนะที่นำไปล้างแล้ว ก็ควรล้างจาน ชาม ช้อน-ส้อม และภาชนะอื่น ๆ ด้วยน้ำเปล่าจนมั่นใจว่าสะอาดจริง ๆ ก่อนนำไปคว่ำบนชั้นวางก็สังเกตดูสักนิดว่า ยังมีกลิ่น คราบ หรือสิ่งสกปรกติดค้างอยู่หรือเปล่า สำหรับคราบหนักควรแช่ทิ้งไว้ในน้ำผสมน้ำยาล้างจานสักพักก่อนนำมาล้าง ก็จะช่วยให้ขัดคราบออกได้ง่ายขึ้น

5. เขียง

          ไม่ว่าจะเป็นเขียงไม้หรือเขียงพลาสติกควรขัดให้สะอาดหลังใช้งาน โดยใช้เกลือหรือเบกกิ้งโซดาโรยบนเขียง จากนั้นนำมะนาวผ่าครึ่งขัดให้ทั่ว แล้วราดน้ำร้อน ก่อนล้างด้วยน้ำสบู่และวางตากไว้ให้แห้งสนิทก่อนหยิบกลับมาใช้งานต่อ วิธีนี้นอกจากจะช่วยกำจัดกลิ่นเหม็นได้แล้วเนี่ย ยังช่วยฆ่าเชื้อโรคอีกด้วยนะคะ

6. ตู้เย็น

          อย่างน้อยควรทำความสะอาดตู้เย็น 3 เดือนต่อครั้ง โดยถอดชั้นวางมาเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำส้มสายชูหรือน้ำมะนาว จากนั้นเทเบกกิ้งโซดาใส่กล่องพลาสติก แล้วนำไปวางไว้ในช่องฟรีซโดยไม่ต้องปิดฝา เพื่อดูดซับกลิ่นเหม็นให้หมดไป

7. เครื่องปั่น
   
          การทำความสะอาดเครื่องปั่นโดยการใช้ฟองน้ำถูไปบนโถปั่นอย่างเดียวไม่พอ แต่ควรถอดใบมีดในเครื่องออกมาล้างต่างหากด้วยอีกครั้ง แล้วเน้นขัดตามซอกเล็ก ๆ จนกระทั่งสะอาด ไม่มีเศษอาหารตกค้างอยู่ หากไม่สามารถถอดใบมีดออกมาได้ อาจจะใช้วิธีนี้แทน เริ่มจากใส่น้ำสะอาดลงไปในเครื่องปั่นเล็กน้อย บีบน้ำยาล้างจาน 2-3 หยดตามลงไป จากนั้นก็เปิดเครื่องปั่นส่วนผสมประมาณ 20 วินาที ก่อนจะนำไปล้างตามปกติ

          เห็นไหมล่ะว่าการทำความสะอาดเครื่องครัวของใช้นั้น ก็มีผลต่อรสชาติอาหารเหมือนกัน หลังจากทำความสะอาดด้วยวิธีการที่ถูกต้องแล้ว รับรองว่าช่วยให้อาหารอร่อยและไม่มีกลิ่นแปลก ๆ ตามมาแน่นอน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก goodhousekeeping, domain

บ้านที่หรูหราสง่างามกับสุนทรียศาสตร์ความทะเยอทะยานและจินตนาการ

BT-House เป็นบ้านที่หรูหราสง่างามและมีชื่อเสียงในด้านปรัชญาการออกแบบที่สอดคล้องกับสุนทรียศาสตร์ความทะเยอทะยานและจินตนาการ บ้านที่เงียบสงบสำหรับครอบครัว  โฮมเมดเหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่ใช้งานและได้รับการบอกกล่าวด้วยความสบาย เพื่อตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของและที่สำคัญกว่าความหวังและแรงบันดาลใจ.

หน้าต่างสามารถเลื่อนพับช่วยให้รูรับแสงภายในห้องพักแต่ละห้องได้รับการปรับเทียบทำให้บรรยากาศและความเป็นส่วนตัวปรับได้ โลหะที่ขยายออกจากโลหะสีเทาเข้มปกคลุมพื้นผิวด้านนอกของห้องใต้หลังคา ทำให้พื้นผิวเป็นหนึ่งเดียวกับการหย่อนยานแบบสุ่มภายใต้ ขณะที่สร้างผลกระทบที่น่ารักของ moiré อากาศและแสงธรรมชาติ ช่วยระบายอากาศบนชั้นบนผ่านช่องอากาศที่วางไว้อย่างระมัดระวังเช่นเดียวกับพื้นระเบียงไม้สักชั้นที่สองให้สัมผัสความอบอุ่นกับพื้นที่ส่วนตัว.

เรียบเรียงข้อมูล @ ฟรีแปลน
Architects: ONG&ONG Pte Ltd
Location: Singapore, Singapore
Directors: Maria Arango, Diego Molina
Project Year: 2017
Manufacturers: Apaiser
Team Members: Julius Caramat Daguio, Lim Yan Qing
Architecture Associate: Lee Cheow Yeh

ร้านเบเกอรี่ คาเฟ่ และร้านอาหารเข้าสู่ชุมนุมของกรุงมาดริด

โครงการนี้เปลี่ยนอดีตที่จอดรถ 1946 ของอาคารที่สำคัญที่สุดของ Gutierrez Soto ตั้งอยู่ในศูนย์กลางของกรุงมาดริดเข้าสู่ชุมนุมของร้านเบเกอรี่คาเฟ่และร้านอาหาร ปริมาณและโครงสร้างเดิมของอาคารถูกกู้คืนออกจากพื้นที่สูง 5 เมตรที่มีช่องเปิดขนาดใหญ่บนถนน

ตั้งแต่ปี 2008 สถาปัตยกรรมในกรุงมาดริดได้รับความนิยมอย่างมากจากชิ้นส่วนไฮดรอลิกและอิฐสีแดงซึ่งถือได้ว่าเป็นธุรกิจเก่าแก่และเป็นอิสระ ทั้งวัสดุและบริบทของมนุษย์ที่ทำจากหินอ่อนหนังโลหะเคลือบทองคำชุบโครเมียมและงานหัตถกรรมที่ทำจากไม้ที่หาได้ยากซึ่งนับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1960 เป็นฐานทางสังคมในการพัฒนา เครือข่ายของร้านอาหารของกรุงมาดริด สถานที่ที่สะดวกสบายซึ่งให้บริการแบบไม่ระบุตัวตนและบริการนี้มอบความไว้วางใจเท่าเทียมและเป็นมาตรฐานแก่ทุกคนได้อย่างรวดเร็ว ได้เปลี่ยนให้เป็นพื้นที่ที่ผู้หญิงและชุมชน LGBTQ เคยพบทางเลือกให้กับแถบผู้ชาย โครงการนี้เป็นผลมาจากกลยุทธ์ในการทำงานร่วมกับผู้ผลิตหินอ่อนที่มีคุณสมบัติสูงผู้ผลิตเครื่องหนังผู้มีส่วนร่วมในการทำโลหะ benders และโครเมียม platers ไม้ทึบและ artisan varnishers ที่อยู่เบื้องหลังการผลิตวัสดุของโรงอาหารของมาดริดด้วยการใช้ความสามารถของพวกเขา.

เรียบเรียงข้อมูล @ ฟรีแปลน
Architects: Andrés Jaque Architects
Location: Calle de Hermosilla, 4, 28001 Madrid, Spain
Office for Political Innovation: Laura Mora Vitoria, Roberto González García, Paola Pardo, Víctor Cano Ciborro, Nieves Calvo López, Marina Fernández Ramos, Marta Jarabo Devesa, Danay Kamdar, Pablo Maldonado, Solé Mallol, Valentina Marín, Flavio Martella, Víctor Nouman García, Larissa Reis, Isabel Sánchez del Campo, Belverence Tameau, Borja García Lázaro.
Landscaping Contractor : Desert City and Los Peñotes
Project Year: 2017
Photographs: Miguel de Guzmán y Rocío Romero. Imagen Subliminal
Manufacturers: Loading...
Furniture (Designed and Produced) : Office for Political Innovation
Structural Consultancy: Mecanismo. Ingeniería de Estructuras (Juan Rey, Jacinto Ruiz)
Service Design Consultancy: DITEC. Diseño y Tecnología Ingenieros Consultores
Quatity Surveyor: Alfonso Sáenz
Safe & Security Coordinator: José María Gutiérrez