กว่าจะหาบ้านที่ถูกใจได้สักหลังก็ต้องอาศัยเวลาในการสรรหาและเลือกสรรกันหน่อยใช่ไหมคะ ต่างจาก คุณ หนูเจิ่น สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ไปพบบ้านเดี่ยวมือสองหลังนี้โดยบังเอิญ แถมสภาพบ้านยังดูดี เลยตัดสินใจซื้อมาปรับปรุงเป็นบ้านเช่าสำหรับครอบครัวชาวต่างชาติ ไอเดียแต่งบ้านเช่าสวย ๆ ที่ไม่ควรพลาด
รีโนเวทบ้านเก่าเป็นบ้านเช่าสุดชิค โดย คุณ หนูเจิ่น
วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์การรีโนเวทบ้านมือสองให้กลายเป็นบ้านเช่าสุดชิคในสไตล์ของเรา เราเคยแต่งบ้านให้เช่าก่อนหน้านี้มาหลังหนึ่งแล้วค่ะ แต่คราวก่อนเป็นบ้านใหม่จากโครงการ จึงไม่ค่อยมีความวุ่นวายเท่าไรนัก ไม่ต้องคิดมาก แต่งสวย ๆ ตามแบบบ้านตัวอย่างก็แจ่มแล้ว
เป้าหมายของการแต่งบ้านเช่าของเราในครั้งนี้คือ ให้ผู้บริหารชาวญี่ปุ่นที่มีครอบครัวมาอยู่ด้วยมาเช่าอยู่ค่ะ เราหาบ้านมือสองอยู่นาน เนื่องจากไม่อยากได้บ้านใหม่ของโครงการแล้ว เพราะบ้านใหม่สมัยนี้โครงสร้างบ้านหรือวัสดุที่ใช้สร้างบ้าน คุณภาพค่อนข้างด้อยกว่าบ้านสมัยก่อนอยู่มาก บ้านใหม่โครงการปัจจุบันนิยมใช้โครงสร้างเป็นพรีแคสต์ (Precast) ซึ่งในความคิดของเรา มันยากต่อการปรับเปลี่ยนรูปแบบใด ๆ เราจึงมองหาบ้านมือสองเพื่อนำมาปรับปรุงใหม่ค่ะ
- ตอนที่เข้าไปจำได้ว่าเป็นช่วงบ่าย อากาศร้อนมาก แต่พอเข้าไปด้านในบ้านกลับไม่ร้อนอย่างที่คิด อาจจะด้วยเพราะต้นไม้ที่เจ้าของบ้านปลูกไว้รอบบ้าน ลมพัดเย็นสบาย ทำให้ความลำเอียงในใจเกิดขึ้นมานิดหน่อย สภาพภายในบ้านไม่โทรมมากเพราะเจ้าของบ้านคอยมาดูแลและทำความสะอาดอยู่เสมอ บ้านหลังนี้ประกาศขายที่ราคา 5.4 ล้านบาท แต่ด้วยงบประมาณในการซื้อบ้านหลังนี้ที่เราตั้งไว้ไม่เกิน 5 ล้านบาท ราคาจึงเกินงบไปอยู่บ้าง ถึงเวลานัดพอดี เราจึงขอตัวไปดูบ้านอีกหลังที่นัดไว้ บ้านอีกหลังมีขนาดของตัวบ้านที่ใหญ่กว่า แต่พื้นที่โดยรวมมีขนาดเล็กกว่า ราคาขายที่ตั้งไว้อยู่ที่ 6 ล้านบาท สภาพภายในบ้านดูโทรมกว่าบ้านหลังแรก ทั้ง ๆ ที่บ้านหลังนี้เจ้าของบ้านยังพักอาศัยอยู่ เราจึงถอดใจเพราะจากสภาพภายนอกที่มองเห็นแล้ว อาจจะต้องปรับปรุงอีกเยอะทีเดียว รวมถึงราคาตั้งก็สูงกว่าที่เราคิดไว้มาก
- กลับมาดูข้อมูลบ้านที่ไปสำรวจกันมาหลายที่เกือบ ๆ 10 หลังได้ ถึงเวลาต้องเลือก เราเลือกบ้านที่บังเอิญเข้าไปเจอ แต่ด้วยราคาที่ยังเกินงบอยู่ เราจึงโทร. ไปต่อรองราคากับเจ้าของบ้าน ปิดดีลด้วยราคา 5.2 ล้านบาท ค่าโอนออกกันคนละครึ่ง เรารีบติดต่อธนาคาร ครั้งนี้เราไม่อยากกู้เกินแล้ว เพราะไม่อยากผ่อนชำระมากเกินไป เราจึงเลือกธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยดีที่สุด จบที่แบงก์สีเหลือง เป็นที่เดิมที่เรายื่นกู้บ้านหลังก่อน ดอกเบี้ยตอนนั้นที่เราเลือก อยู่ที่ 4% ปีที่ 1-3 หลังจากนั้น MRR-2.45% ตลอดอายุสัญญา หลังจากโอนบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ช่วงเวลาของความวุ่นวายจึงเริ่มต้นอีกครั้ง
- เนื่องจากเราทั้งคู่ทำงานประจำ เวลาที่จะเข้าทำบ้านได้จึงมีแค่วันเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น ดูจากภาพรวมของบ้านแล้ว จริง ๆ ถ้าจะเข้าอยู่เองและไม่คิดอะไรมาก สามารถเข้าอยู่ได้เลย เพราะเจ้าของบ้านดูแลบ้านได้ดีมาก ๆ แต่เราตัดสินใจจะทำบ้านหลังนี้เป็นบ้านเช่า จึงมานั่งลิสต์รายการที่จะต้องทำว่ามีอะไรบ้าง
1. เปลี่ยนกระเบื้องพื้นบ้านชั้นล่างให้เป็นแกรนิโต้
2. รีโนเวทห้องครัวใหม่
3. ทาสีบ้านใหม่ทั้งภายนอกและภายใน
4. เฟอร์นิเจอร์
5. ปรับปรุงสวนรอบบ้าน
6. เปลี่ยนกระเบื้องห้องน้ำใหม่
7. เปลี่ยนผ้าม่านใหม่
8. เปลี่ยนโคมไฟใหม่ (ห้องรับแขก-โถงบันได)
9. เปลี่ยนกระเบื้องโรงจอดรถใหม่
10. เปลี่ยนมุ้งลวดและซีลยาง
- เริ่มต้นงานแรกด้วยการปูกระเบื้องพื้นบ้านและกระเบื้องห้องน้ำ เราตั้งงบประมาณของแต่ละรายการไว้บ้างแล้ว แต่ก็ยังเกินงบไปบ้างอยู่ดี ช่างที่เข้ามาทำงานให้เป็นช่างที่เคยทำงานให้เราที่บ้านหลังก่อนจึงค่อนข้างไว้ใจได้ เราให้กุญแจบ้านเค้าไปเลยชุดหนึ่งค่ะ ให้เค้าเข้ามาทำงานได้ตามปกติ ช่วงเย็นหลังเลิกงานเราค่อยมาเช็กงานแล้วโทร. คุยกับช่างหากต้องการให้แก้ไขอะไร
- ระหว่างงานซ่อมแซมปรับปรุงดำเนินไป เราก็เลือกแบบเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการ เราไม่อยากได้เฟอร์นิเจอร์เป็นแบบบิวท์อินค่ะ เนื่องจากเราทำบ้านเช่า หากเป็นเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินจะยากต่อการปรับปรุงแก้ไขและบำรุงรักษา เราเลือกเป็นเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว วันเสาร์-อาทิตย์ก็ไปดูแบบเฟอร์นิเจอร์ตามงานแฟร์ต่าง ๆ โชว์รูมต่าง ๆ สรุปมาจบที่ Kiddai ด้วยความที่เห็นฟีดโฆษณาผ่านตาในเฟซบุ๊กอยู่บ่อย ๆ งานไม้สีอ่อน ๆ แบบนี้ก็น่าจะเข้ากับสีบ้านที่เราเลือกไว้ แต่ด้วยความที่เราเห็นผลงานจากแค่ในเฟซบุ๊ก จึงไม่แน่ใจว่างานจริงจะเป็นยังไง ก็เลยโทร. นัดขอดูผลงาน
- พอได้ไปเจอกัน อ้าว ! เจ้าของยังเด็กอยู่เลย โรงงานผลิตก็เป็นอาคารเก่าให้เช่า ไม่มีอะไรมาก (**ตอนนี้เค้าย้ายโรงงานผลิตแล้วนะคะ ดีกว่าที่เดิมเยอะเลย) งานไม้ที่เห็นก็ไม่ได้เรียบร้อยมากเท่าไร ถ้าเทียบกับงานไม้แบบคล้าย ๆ กันที่เราไปเดินดูตามงานต่าง ๆ คุณภาพงานอาจจะต่างกันอยู่มาก แต่ด้วยงบประมาณที่เรามีอยู่และด้วยบริการที่ดีของน้อง ถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคามาก ๆ เราเลยตัดสินใจให้ Kiddai ออกแบบเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดให้ งานเฟอร์นิเจอร์ออกมาได้อย่างที่เราตั้งใจไว้ทุกอย่างค่ะ น้องทำงานได้ดีมากคอมเพลนอะไรไปก็แก้ไขให้รวดเร็ว ทีมงานทั้งหมดมีแต่เด็ก ๆ แต่งานที่ออกมาก็อยู่ในระดับที่ใช้ได้เลยทีเดียว ถือว่าเป็น Startup new gen ที่น่าส่งเสริมค่ะ
- งานออกแบบเฟอร์นิเจอร์เริ่มจากแจ้งคอนเซ็ปต์น้องไปว่าอยากได้เฟอร์นิเจอร์อะไรบ้าง แบบประมาณไหน มีงบอยู่เท่าไร น้องเข้ามาวัดพื้นที่หน้างานในส่วนที่ต้องติดตั้งกับโครงสร้างบ้าน เช่น ระแนงบังตาส่วนซักรีด จากนั้นน้องจะกลับไปออกแบบแล้วค่อย ๆ ส่งแบบพร้อมรายละเอียดมาให้เราคอนเฟิร์มอีกทีค่ะ งานดี ราคาไม่แรง ปรับเปลี่ยนได้ตามที่เราต้องการ ใครกำลังมองหาเฟอร์นิเจอร์ไม้ชิค ๆ อยู่ แนะนำเลยค่ะ **ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับ Kiddai ทั้งสิ้นนะคะ เพียงแค่อยากเอาประสบการณ์ดี ๆ มาแชร์ให้ฟังค่ะ**
- ระหว่างปรับปรุงบ้าน เจอชักโครกรั่วบ้าง น้ำซึมฝ้าบ้าง ก็แก้ไขหน้างานกันไป โชคดีหน่อยที่เรามีช่างประจำ เรียกให้มาซ่อมได้ทันที
- จบงานซ่อม เก็บรายละเอียดส่วนที่เหลือ ติดตั้ง Wi-Fi สัญญาณกันขโมย ตกแต่งเพิ่มเติมอีกนิดหน่อย ช่วงเวลาพักผ่อนในวันหยุดของเรากลับมาอีกครั้ง หลังจากที่วันเสาร์-อาทิตย์ ต้องเข้าไปดูบ้านตลอดในช่วงที่ผ่านมา ระยะเวลาที่ใช้ในการปรับปรุงบ้านในครั้งนี้อยู่ที่ประมาณ 6 เดือน ตอนนี้บ้านพร้อมเปิดให้เช่าแล้วค่ะ ^^
1. เปลี่ยนกระเบื้องพื้นบ้านชั้นล่างให้เป็นแกรนิโต้ เปลี่ยนกระเบื้องห้องน้ำใหม่ 1 ห้อง
- ค่ากระเบื้อง เปลี่ยนประตูห้องน้ำใหม่ทั้งหมด เนื่องจากประตูห้องน้ำเดิมเริ่มผุแล้ว 20,169 บาท
- ค่าแรงงานกระเบื้องพื้นและห้องน้ำ 50,000 บาท
2. รีโนเวทห้องครัวใหม่
- ค่ากระเบื้อง 6,293 บาท
- ตัวดูดควัน 10,824 บาท
- ค่าแรง 6,000 บาท
3. ทาสีบ้านใหม่ทั้งภายนอกและภายใน
- ค่าสี+ค่าแรงช่าง 100,000 บาท
4. เฟอร์นิเจอร์
- ราคาเฟอร์นิเจอร์ทั้งหลัง (ไม่รวมที่นอนและของตกแต่งเล็ก ๆ น้อย ๆ) 145,000 บาท
5. ปรับปรุงสวนรอบบ้าน
- ค่าขุดต้นไม้ออก 4,500 บาท ปลูกเพิ่ม 4,000 บาท
- ค่าปรับดิน+ปูพื้นตัวหนอน 25,000 บาท
- ค่าอิฐตัวหนอน 48,750 บาท (ราคาอิฐก้อนละ 6.50 บาท)
6. เปลี่ยนม่านใหม่
- ผ้าม่านกัน UV สั่งตัดทั้งหลัง+ค่าติดตั้ง 30,000 บาท
7. เปลี่ยนโคมไฟใหม่ (ห้องรับแขก-โถงบันได)
- โคมไฟอิเกีย+ชุดหลอดไฟ 1,688 บาท
- ค่าแรงช่างไฟเปลี่ยนโคมไฟและตรวจเช็กระบบไฟรอบบ้าน 6,000 บาท
8. เปลี่ยนผ้ามุ้งลวด+ขอบยางประตูมุ้งลวดใหม่ทั้งหลัง
- ค่าของ+ค่าแรงช่างเปลี่ยนผ้ามุ้ง 8,500 บาท (ขอบยางประตูขอแบ่งซื้อกับทางร้านแล้วเอามาตัดเปลี่ยนเองค่ะ)
9. เปลี่ยนกระเบื้องโรงจอดรถใหม่
- ค่ากระเบื้อง 12,000 บาท
- ค่าแรงปูกระเบื้อง 15,000 บาท
แจงรายละเอียดงบประมาณที่ใช้ในครั้งนี้ไว้ให้แล้วนะคะ เผื่อใครมีโครงการปรับปรุงบ้านอยู่ตอนนี้ จะได้ทราบงบประมาณคร่าว ๆ ได้ ทั้งนี้ ราคาอาจจะขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่ด้วย ใครมีไอเดียดี ๆ นำมาแบ่งปันกันนะคะ ^^
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ หนูเจิ่น สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น