เช็กด่วน!! 5 สัญญาณที่ร่างกายกำลังบอกให้คุณรู้ หากคุณมักจะตื่นขึ้นมากลางดึก
หลายคนอาจเคยเจอกับปัญหาเข้านอนทีไรมักจะตื่นขึ้นมากลางดึกทุกที ถ้าหลับต่อได้ก็โชคดีไป แต่ส่วนใหญ่มันก็จะไม่รู้สึกฟินเท่าหลับรวดเดียวถึงตอนเช้า เรื่องนี้อาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ที่แท้จริงแล้วการหลับหรือการเผลอตื่นขึ้นมาในแต่ละช่วงเวลาที่แตกต่างกันไปนั้นเป็นสัญญานบอกถึงบางสิ่งที่ร่างกายกำลังจะบอกกับเราค่ะ ลองมาดูกันว่าสัญญาณเหล่านั้นมีอะไรบ้าง
ถ้าปกติแล้วคุณเป็นคนที่เข้านอนเวลาประมาน 3-4 ทุ่มอยู่แล้วล่ะก็ เกิดวันดีคืนดีนอนไม่หลับซะอย่างนั้น นั่นเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าคุณกำลังเครียดกับอะไรบางอย่าง วิธีแก้ง่ายๆ คือฝึกทำสมาธิก่อนนอน และพยายามอย่าคิดเรื่องปัญหาต่างๆ เพราะจะยิ่งทำให้เครียดนอนไม่หลับ นอกจากการทำสมาธิแล้วการทำ “โยคะนิทรา” ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีที่จะช่วยแก้ปัญหานอนไม่หลับ เพราะเป็นวิธีการผ่อนคลายอารมณ์และจิตใจทำให้ความเครียดหายไปอีกด้วย
ถ้าคุณเผลอตื่นขึ้นมาระหว่างตี 1 ถึง ตี3 นั่นหมายความว่าช่วงนี้คุณโมโห โกรธ ไม่พอใจกับอะไรบางสิ่ง โดยศาสตร์แพทย์แผนจีนกล่าวไว้ว่าพลังงานความโกรธนั้นเชื่อมโยงไปที่ตับ ถ้าช่วงนี้คุณหัวเสียหรือฉุนเฉียวง่ายนั่นหมายความว่าตับคุณกำลังมีปัญหา สามารถแก้ได้ง่ายๆ โดยการดื่มน้ำเย็นหรือฝึกสมาธิก่อนนอนเพื่อเป็นการปลดปล่อยอารมณ์โกรธค่ะ
เวลาในช่วงนี้เกี่ยวเนื่องกันกับการทำงานของลำไส้ใหญ่ค่ะ นั่นหมายความว่าลำไส้ใหญ่อาจเกิดการเสียสุมดลและทำให้ในช่วงนี้คุณมีอาการท้องผูก ซึ่งยังเกี่ยวเนื่องกับอารมณ์หวาดกลัว ส่งผลให้เป็นคนมองโลกในแง่ร้าย หวาดระแวง และก่ออารมณ์ลบอีกมากมาย โดยวิธีแก้คือให้ลองยืดเส้นยืดสายก่อนกลับเข้าไปนอนใหม่อีกครั้ง
จะเห็นได้ว่าศาสตร์แพทย์แผนจีนจะเน้นความสัมพันธ์ระหว่างร่างกายและจิตใจ แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่าการเผลอตื่นมากลางดึกของเราในแต่ละครั้งนั้นจะมีความหมายมากมายขนาดนี้ แบบนี้คุณต้องลองสังเกตตัวเองกันดูบ้างแล้วว่ามีอาการตรงตามที่เรากล่าวมาหรือไม่
ที่มา: bustle
หลายคนอาจเคยเจอกับปัญหาเข้านอนทีไรมักจะตื่นขึ้นมากลางดึกทุกที ถ้าหลับต่อได้ก็โชคดีไป แต่ส่วนใหญ่มันก็จะไม่รู้สึกฟินเท่าหลับรวดเดียวถึงตอนเช้า เรื่องนี้อาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ที่แท้จริงแล้วการหลับหรือการเผลอตื่นขึ้นมาในแต่ละช่วงเวลาที่แตกต่างกันไปนั้นเป็นสัญญานบอกถึงบางสิ่งที่ร่างกายกำลังจะบอกกับเราค่ะ ลองมาดูกันว่าสัญญาณเหล่านั้นมีอะไรบ้าง
- สามสี่ทุ่มแล้วถ้ายังนอนไม่หลับแปลว่าคุณกำลังเครียด
ถ้าปกติแล้วคุณเป็นคนที่เข้านอนเวลาประมาน 3-4 ทุ่มอยู่แล้วล่ะก็ เกิดวันดีคืนดีนอนไม่หลับซะอย่างนั้น นั่นเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าคุณกำลังเครียดกับอะไรบางอย่าง วิธีแก้ง่ายๆ คือฝึกทำสมาธิก่อนนอน และพยายามอย่าคิดเรื่องปัญหาต่างๆ เพราะจะยิ่งทำให้เครียดนอนไม่หลับ นอกจากการทำสมาธิแล้วการทำ “โยคะนิทรา” ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีที่จะช่วยแก้ปัญหานอนไม่หลับ เพราะเป็นวิธีการผ่อนคลายอารมณ์และจิตใจทำให้ความเครียดหายไปอีกด้วย
- เผลอตื่นขึ้นมาตอน 5 ทุ่มหรือตี 1 บ่งบอกถึงความผิดหวังท้อแท้ใจ
- เผลอตื่นขึ้นมาระหว่างตี 1 ถึง ตี3 แปลว่าช่วงนี้หงุดหงิดฉุนเฉียวบ่อย
ถ้าคุณเผลอตื่นขึ้นมาระหว่างตี 1 ถึง ตี3 นั่นหมายความว่าช่วงนี้คุณโมโห โกรธ ไม่พอใจกับอะไรบางสิ่ง โดยศาสตร์แพทย์แผนจีนกล่าวไว้ว่าพลังงานความโกรธนั้นเชื่อมโยงไปที่ตับ ถ้าช่วงนี้คุณหัวเสียหรือฉุนเฉียวง่ายนั่นหมายความว่าตับคุณกำลังมีปัญหา สามารถแก้ได้ง่ายๆ โดยการดื่มน้ำเย็นหรือฝึกสมาธิก่อนนอนเพื่อเป็นการปลดปล่อยอารมณ์โกรธค่ะ
- เผลอตื่นขึ้นมาระหว่าง ตี 3 ถึง ตี 5 หมายถึงช่วงนี้จิตใจหม่นหมอง
- เผลอตื่นมาช่วงตี 5 ถึง 7 โมงเช้าหมายถึงช่วงนี้กำลังหวาดกลัว
เวลาในช่วงนี้เกี่ยวเนื่องกันกับการทำงานของลำไส้ใหญ่ค่ะ นั่นหมายความว่าลำไส้ใหญ่อาจเกิดการเสียสุมดลและทำให้ในช่วงนี้คุณมีอาการท้องผูก ซึ่งยังเกี่ยวเนื่องกับอารมณ์หวาดกลัว ส่งผลให้เป็นคนมองโลกในแง่ร้าย หวาดระแวง และก่ออารมณ์ลบอีกมากมาย โดยวิธีแก้คือให้ลองยืดเส้นยืดสายก่อนกลับเข้าไปนอนใหม่อีกครั้ง
จะเห็นได้ว่าศาสตร์แพทย์แผนจีนจะเน้นความสัมพันธ์ระหว่างร่างกายและจิตใจ แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่าการเผลอตื่นมากลางดึกของเราในแต่ละครั้งนั้นจะมีความหมายมากมายขนาดนี้ แบบนี้คุณต้องลองสังเกตตัวเองกันดูบ้างแล้วว่ามีอาการตรงตามที่เรากล่าวมาหรือไม่
ที่มา: bustle
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น