หากกล่าวถึงเจ้าของบูติกรีสอร์ตสุดหรูในประเทศไทยที่ติดอันดับโลก รับรองว่าต้องมีชื่อของศาลา รีสอร์ท แอนด์ สปา อยู่แน่นอน ไม่ว่าจะเป็น Six Senses Hideaway เกาะสมุย ,ศาลา สมุย และศาลา ภูเก็ต ซึ่งการบริหารงานที่จะนำโรงแรมไทยไปสร้างชื่อเสียงในระดับเวทีโลกได้มีวิธีอย่างไร และแผนขยายรีสอร์ตใหม่ของศาลา เป็นแห่งที่ 4 ณ เขาใหญ่ จะเป็นอย่างไรอ่านได้จากสัมภาษณ์นางศุกตา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทศาลา กรุ๊ป จำกัด
++โฟกัสทะเลขยายแบรนด์ศาลา
ต้องขอย้อนไปก่อนว่าการก้าวเข้าสู่ธุรกิจรีสอร์ตของศาลา กรุ๊ป เริ่มต้นจากใจรักของสามี (ทศ จิราธิวัฒน์) ที่ชอบเรื่องการออกแบบ และมองเห็นโอกาสในการลงทุนในธุรกิจท่องเที่ยวโดยเฉพาะในพื้นที่ชายทะเล ซึ่งก็เริ่มต้นที่ ศาลา เอวาสัน ไฮด์ อะเวย์ เกาะสมุย เมื่อปี2547 จนมาเมื่อ 1-2 ปีที่ผ่านมาจึงได้รีแบรนด์ใหม่เป็น Six Senses Hideawayซึ่งก็ได้จ้างเชน Six Senses มาให้บริหารเหมือนเดิม แต่ปรับมาใช้แบรนด์ระดับท็อปของเขา
ต่อมาจึงเปิดศาลาสมุย ปลายปี 2004 และศาลาภูเก็ต เปิดปลายปี 2550 และกำลังจะเปิด ศาลา เขาใหญ่ ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2552 ซึ่งการลงทุนก็มีผู้ถือหุ้นจากหลายฝ่ายทั้งผู้ถือหุ้นต่างชาติบ้างและญาติๆกันบ้าง โดยตนก็ได้รับมอบหมายให้เข้าบริหารงาน ซึ่งที่ผ่านมาทางผู้บริหารก็รู้สึกภูมิใจมากสำหรับโรงแรมต่างๆที่ได้รับรางวัลจากผู้อ่านนิตยสารด้านท่องเที่ยวระดับชั้นนำของโลก
อาทิ ศาลา สมุย ได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 10 อันดับของรีสอร์ตที่โรแมนติกที่สุดในโลก และเป็นรีสอร์ตที่โรแมนติกที่สุดในประเทศไทย จาก Trip Advisor Choice Awards ในปี 2549 และในปี 2552 ส่วนศาลา ภูเก็ต ก็ได้รับการคัดเลือกให้เป็น 1 ในไม่กี่แห่งของโรงแรมและรีสอร์ตใหม่ทั่วโลก ที่ติดอันดับ "Hot List" ของนิตยสาร Conde' Nast Traveler ในปี 2551 นอกจากนั้นยังได้รับรางวัลชนะเลิศ "DestinAsia Luxe List Award" ในปี 2551 และได้รับรางวัลเหรียญเงินด้านการออกแบบจากสมาคมสถาปนิกสยามในปีเดียวกันด้วย ขณะที่Six Senses Hideaway สมุย ก็เป็นโรงแรมที่ได้รับรางวัลมาหลากหลายเช่นกัน
++เน้นออกแบบสร้างจุดเด่น
การได้รับรางวัลต่างๆของรีสอร์ตในเครือศาลา แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่เราเริ่มเดินทางตั้งแต่ต้นทำมาอย่างถูกทิศทาง ซึ่งการลงทุนของศาลา กรุ๊ปจะเน้นลงทุนรีสอร์ตหรูระดับไฮเอนด์กลมกลืนกับธรรมชาติ จึงจะเห็นได้ว่าเราเป็นรีสอร์ตแห่งแรกที่สร้างห้องพักแบบพูลวิลล่า การออกแบบโรงแรมก็จะเน้นเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญ มีเอกลักษณ์เป็นสไตล์ของศาลากรุ๊ป รวมถึงความโดดเด่นของทำเลที่ตั้ง จึงทำให้กลายเป็นจุดเด่นในการดึงดูดนักท่องเที่ยว อย่าง Six Senses Hideaway สมุย นอกจากความสวยงามของวิวที่ตั้งอยู่บนหน้าผาแล้ว การออกแบบก็จะเน้นให้แลดูเหมือนหมู่บ้านชาวประมง มีทั้งหมด 66 ยูนิตส่วนใหญ่เป็นพูลวิลล่า
ขณะที่ศาลา สมุย ก็เป็นแบบศิลปะไทยร่วมสมัย เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาวครึ่ง มีความทันสมัย จำนวน 69 ยูนิต เป็นพูลวิลล่า และทำเลของรีสอร์ตอยู่ติดหาดเชิงมน มีห้องพักที่ลูกค้าสามารถเดินลงสระว่ายน้ำได้ ก็เหมาะสำหรับกลุ่มฮันนีมูน ทำให้โรงแรมแห่งนี้ได้รับเลือกให้เป็นโรงแรมที่โรแมนติกที่สุด ส่วนศาลา ภูเก็ต คอนเซ็ปต์จะเป็นแบบชิโนโปรตุกิส เป็นรีสอร์ตในระดับ 5 ดาว อยู่บนหาดไม้ขาว เป็นห้องพูลวิลล่า 89 ยูนิต
++ผุดรีสอร์ตใหม่เขาใหญ่
ดังนั้นจากการบริหารศาลา รีสอร์ท จนประสบความสำเร็จ ทำให้ในขณะนี้เราจึงมีความมั่นใจที่จะพัฒนาแบรนด์ศาลา เพื่อรองรับการขยายธุรกิจของบริษัทในอนาคต ซึ่งก็จะเน้นสร้าง
แบรนด์ความเป็นบูติกรีสอร์ตในระดับหรู รวมถึงได้ปรับเปลี่ยนโลโกใหม่ด้วย เพราะที่ผ่านมาโรงแรมศาลาทั้งที่สมุยและภูเก็ตต่างก็ประสบความสำเร็จมากทั้งๆที่เราบริหาร ขณะที่ Six Senses Hideaway สมุย ซึ่งเราใช้เชนเพียงแห่งเดียวก็ไปได้ดี กลุ่มลูกค้าของทั้ง 3 โรงแรม จะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ 80-90% ไม่ว่าจะเป็นยุโรป อังกฤษ เยอรมนี ฝรั่งเศส สเปน ออสเตรเลีย เป็นหลัก ในโซนเอเชียก็มีบ้างเช่น เกาหลี ญี่ปุ่น ขายห้องพักราคาเฉลี่ยอยู่ในหลักหมื่นบาทต่อคืน
ทำให้ในขณะนี้ทางบริษัท จะวางแผนจะเปิดให้บริการ ศาลา เขาใหญ่ รีสอร์ท บูติกรีสอร์ตขนาดเล็ก ทันสมัย ใหม่ล่าสุด ซึ่งเรามีที่ดินอยู่ประมาณ 100 ไร่ อยู่บนทุ่งหญ้า ส่วนหนึ่งจะปลูกป่า โดยจะปลูกต้นไม้กว่า 5,000 ต้นเต็มพื้นที่ของรีสอร์ต และจะมีส่วนที่สร้างเป็นบูติกรีสอร์ตขนาดเล็กอันทันสมัย จำนวน 7 ห้องทั้งแบบวิลล่าและแบบห้องสวีต ซึ่งแต่ละห้องจะมีสระว่ายน้ำส่วนตัวอยู่ภายใน ทำเป็นที่พักวีกเอนด์ รีทรีต ลงทุนไม่เกิน 30 ล้านบาท โดยจะเปิดให้บริการในวันที่ 16 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งทุกห้องสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ข้ามเนินเขาและหุบเขาของเขาใหญ่ได้อย่างชัดเจน
สำหรับการออกแบบรีสอร์ตแห่งนี้ ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติที่อยู่รายล้อมผสมผสานกับสิ่งอำนวยความสะดวกอันทันสมัย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพักที่ทำจากไม้จริงตามธรรมชาติและวัสดุต่างๆที่ทำจากหนังสัตว์ ซึ่งทำให้ผู้เข้าพักรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของชนบทที่แผงไว้ด้วยบรรยากาศแบบซาฟารี โดยในทุกห้องของพูลวิลล่า จะมีเตาผิงไว้เปิดในช่วงฤดูหนาวที่มีอากาศเย็นจัด เพื่อสร้างความโรแมนติกยามค่ำคืน ซึ่งก็มั่นใจว่าจุดขายของรีสอร์ตจะเหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ต้องการบรรยากาศธรรมชาติของป่าเขา
++เชื่ออีก 1-2 ปีธุรกิจฟื้น
ส่วนภาพรวมของธุรกิจของศาลา กรุ๊ปในปีนี้ ก็ชะลอตัวลงจากการหดตัวของการท่องเที่ยวจากภาวะเศรษฐกิจโลก และปัญหาการเมืองในประเทศ แต่ตนเชื่อว่าในอีก 1-2 ปีนี้ก็น่าจะดีขึ้น เพราะการท่องเที่ยวเป็นก็เป็นวัฏจักร เพราะในทุก 10 ปีก็จะเกิดการชะลอตัวจากวิกฤติต่างๆ ทั้งเกิดวิกฤติต้มยำกุ้ง มาปีนี้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
ดังนั้นในช่วงที่ท่องเที่ยวชะลอตัว ในปีนี้ทางศาลา กรุ๊ป ก็อยู่ระหว่างการรีโนเวตรีสอร์ต เช่น รีโนเวต ศาลา สมุย ใช้งบไม่เกิน 40 ล้านบาท ปรับปรุงระบบแอร์ของ Six Senses Hideaway สมุย ส่วนแผนการลดค่าใช้จ่ายเราไม่มีนโยบายลดวันทำงานหรือให้คนออก เพราะพนักงานก็ได้รายได้ลดลงอยู่แล้วจากเซอร์วิสชาร์จที่น้อยลง เพราะเราถือว่าพนักงานเป็นสิ่งสำคัญ เพียงแต่หากมีคนออกเราก็ไม่รับเพิ่ม ให้พนักงานที่เหลือช่วยกันทำงานเพิ่ม เพื่อผ่าวิกฤติ และเน้นการทำประชาสัมพันธ์ร่วมกับค่ายบัตรเครดิตต่างๆ เพื่อประคองตัว ระหว่างรอท่องเที่ยวฟื้นตัว
ทั้งหมดเป็นการเปิดใจของเอ็มดีของศาลา กรุ๊ป กับการขยายธุรกิจของศาลา และเอกลักษณ์ของรีสอร์ตแต่ละแห่ง ที่กลายเป็นจุดเด่นในระดับเวทีโลกเช่นทุกวันนี้
ที่มา:ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 01 - 04 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น